3 เทคนิคการเล่น Back-door Straight & Flush
หากคุณเป็นคนที่ไม่ค่อยได้สนใจกับการ Backdoor เคล็ดลับนี้จะช่วยคุณได้ (Backdoor หมายถึงการลุ้นไพ่ใบ Turn กับ River ให้เข้ากับไพ่ของเรา)
1.ลอง Bet ใส่คู่ต่อสู้เมื่อคุณมี Backdoor flush
ถ้าไพ่ของคุณไม่มีคู่อะไรเลย แต่มี Backdoor flush คุณควรลองคิดริเริ่มที่จะ Bet ด้วยไพ่แบบนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตำแหน่งของคุณดีกว่า
การ Bet ด้วย Backdoor flush จะทำให้คุณมีกำไรเพิ่มมากขึ้น มีอยู่ 2 กรณี
1.เมื่อไพ่ Turn (Turn หมายถึงไพ่ใบที่ 4) เป็น Flush draw (Flush draws หมายถึงการลุ้นไพ่สี) ของคุณ คุณจะมีโอกาสที่จะชนะมากยิ่งขึ้น หากไพ่ Turn เป็นสีเดียวกับที่คุณรออยู่ แล้วคุณจะสามารถ Bet ตรง Turn อีกครั้งได้อีก และยิ่งไปกว่านั้นหากไพ่ River ออกมาเป็น Flush ของคุณ ยิ่งจะทำให้คู่ต่อสู้ไม่เชื่อคุณ ดังนั้นจะยิ่งทำกำไรได้มากขึ้นไปอีก
2.เมื่อไพ่ที่ Draws ส่วนใหญ่ออกมาตรง Turn การ Bet กับไพ่ใบที่น่ากลัว ที่ทำให้บอร์ดอันตราย ยิ่งจะทำให้คู่ต่อสู้ของคุณกลัวและอาจจะหมอบไปเลย
2.Backdoor flush ทำให้ไพ่ที่ควรจะหมอบกลายเป็นไพ่ที่ควรจะคอลได้
ยกตัวอย่างเช่น คุณ Raise ตรง Botton (Botton หมายถึงตำแหน่งที่จะได้เล่นเป็นคนสุดท้ายหลังจากเปิดไพ่กองกลางแล้ว) ด้วย 86 แล้ว Flop (Flop หมายถึงไพ่ 3 ใบแรก)
เป็น 
คุณเล่นกับ Big Blind แล้วโดน Big Blind Check-raise
ในสถานการณ์นี้ ทางที่ดีที่สุดคือ Fold แต่ถ้าคุณมี Backdoor flush คุณควรจะ Call
เช่น คุณมี 
สองผลดีของการเล่น Backdoor flush คือ
⦁ Backdoor flush จะมีโอกาสชนะเพิ่มมากขึ้นประมาณ 4%
⦁ คุณสามารถ Bluff ตรง Turn ต่อได้หากไพ่ Turn ทำให้คุณมี Flush draw
3.การที่มี Double Backdoor Draws ยิ่งควรที่จะ Check-raise
(Double Backdoor หมายถึงการที่เรามี Backdoor สองอย่างคือ Flush และ Straight)
โดยผู้เล่นส่วนใหญ่จะใช้วิธีนี้ก็ต่อเมื่อมี Flush draw , Open-end (Open-end หมายถึงการลุ้นไพ่ Straight แบบมีสองหน้า คือมี 8 outs) อะไรทำนองนี้ แต่ในบางครั้ง บอร์ดก็ไม่ได้ดีพอที่จะทำให้เรามีไพ่แบบนั้นได้
ไพ่ที่มี Double Backdoor จะทำให้คู่ต่อสู้ของคุณคาดไม่ถึงว่าเราจะมีไพ่นั้นๆ นั่นจะทำให้คุณได้กำไรเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้คุณยังสามารถ Call การ Check-raise ตรง Flop ได้ด้วย
ตัวอย่าง 
หรือ 
